ไส้กรองน้ำ: 5 สัญญาณที่ควรเปลี่ยน

       ไส้กรองน้ำเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่อยู่ในเครื่องกรองน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขจัดสิ่งเจือปนและสารปนเปื้อนออกจากน้ำ ทำให้ปลอดภัยสำหรับการบริโภค ทำอาหาร และใช้ในครัวเรือนอื่นๆ ซึ่งมีให้เลือกหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ ไส้กรองถ่านกัมมันต์ ไส้กรองรีเวอร์สออสโมซิส ไส้กรองเซรามิก และไส้กรอง UV ซึ่งแต่ละชนิดออกแบบมา เพื่อขจัดสิ่งเจือปนบางชนิดออกจากน้ำ

 

       เมื่อใช้ไปนาน ๆ ตัวกรองน้ำอาจอุดตันด้วยตะกอน เศษขยะที่มองไม่เห็นที่มากับน้ำ และสิ่งปนเปื้อน ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องกรองน้ำลดลง และอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าเมื่อใดควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำที่เราใช้ ยังคงสะอาดและปลอดภัยสำหรับการอุปโภคบริโภค

 

       ความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรอง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของไส้กรอง ระดับการใช้งาน และคุณภาพของน้ำประปา โดยทั่วไป แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของไส้กรอง และระดับการใช้งาน

 

      สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไส้กรองนั้น อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของไส้กรอง และระดับการใช้งาน โดยสามารถสังเกตสัญญาณได้ ดังต่อไปนี้

 

1. กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นในน้ำ: หนึ่งในสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดที่บ่งบอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรอง คือรสชาติหรือกลิ่นที่เหม็นในน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากการสะสมของสิ่งสกปรกในตัวกรองหรือตัวกรองอุดตัน ซึ่งทำให้ตัวกรองไม่สามารถขจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

2. แรงดันน้ำลดลง: สัญญาณอีกอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรอง คือแรงดันน้ำลดลง ซึ่งอาจเกิดจากตัวกรองอุดตันหรือการสะสมของตะกอนหรือเศษต่างๆ ในตัวกรอง ซึ่งจำกัดการไหลของน้ำ

 

3. การเปลี่ยนแปลงของสีหรือความใสของน้ำ: การเปลี่ยนแปลงของสี หรือความใสของน้ำ เป็นอีกสัญญาณหนึ่ง ที่บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนไส้กรอง ซึ่งอาจเกิดจากการสะสมของสิ่งเจือปนในตัวกรอง ซึ่งทำให้น้ำขุ่นหรือมีสีเปลี่ยนไป

 

4. ตะกอนหรือเศษขยะที่มองเห็นได้ในน้ำ: หากคุณสังเกตเห็นตะกอนหรือเศษขยะที่มองเห็นได้ในน้ำ แสดงว่าได้เวลาต้องเปลี่ยนไส้กรอง ซึ่งอาจเกิดจากการสะสมของตะกอนหรือเศษขยะในตัวกรอง ซึ่งทำให้ตัวกรองไม่สามารถขจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

5. ไส้กรองหมดอายุ: หากไส้กรองมีวันหมดอายุ สิ่งสำคัญคือ ต้องเปลี่ยนก่อนวันหมดอายุ หลังจากวันหมดอายุ ตัวกรองอาจไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกได้มีประสิทธิภาพอีกต่อไป

 

       ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตว่า เมื่อใดควรเปลี่ยนไส้กรอง และตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาสัญญาณของสิ่งเจือปน ด้วยการเปลี่ยนไส้กรองเป็นประจำ คุณจึงจะสามารถมั่นใจได้ว่า น้ำที่เราบริโภค อุปโภค ยังคงสะอาดและปลอดภัย