ทำไมต้องกรองน้ำฝน จำเป็นหรือไม่?

พอเข้าฤดูฝน หลาย ๆ คน คงเริ่มรองน้ำฝนเอาไว้ใช้ ไม่ว่าจะใช้ในการอุปโภค เช่น อาบน้ำ ล้างจาน ล้างรถ หรือรดน้ำต้นไม้  และบางบ้านที่อาศัยอยู่บนเขา หรือที่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนก็มักจะเก็บน้ำไว้ใช้ และอาจรวมไปถึงการบริโภค หรือนำไปเป็นน้ำดื่มนั่นเอง ซึ่งในอดีตน้ำฝนถือเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญจากธรรมชาติ สามารถนำมาดื่มได้อย่างปลอดภัย และใช้อาบได้โดยตรง แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน การเติบโตของโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ทำให้มีงานวิจัยจากหลายแห่ง บ่งชี้ให้เห็นถึงอันตรายที่อาจมากับน้ำ เพราะเมื่อฝนตกลงมาสู่ชั้นบรรยากาศด้านล่าง ได้สัมผัสกับฝุ่นละออง สารเคมี รวมไปถึงจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้ฝนที่ตกลงมา มีสารปนเปื้อนและอาจนำไปสู่โรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำที่ไม่สะอาดได้ เช่น โรงผิวหนัง มะเร็ง อาการแพ้จากฝนเป็นกรด และอื่น ๆ คำถามคือ แล้วเรายังสามารถนำน้ำฝน มาใช้ดื่ม และใช้ในการอุปโภคได้อยู่หรือไม่ วันนี้แอดมินมีข้อพิจารณาเกี่ยวกับการนำน้ำฝนมาใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้ค่ะ

ถังเก็บน้ำและระบบกรองน้ำฝนตามชุมชน

สิ่งที่ควรพิจารณา ก่อนน้ำฝนไปใช้

หลายคนคงคุ้นเคยกับการเก็บน้ำไว้ใช้ ในถังเก็บน้ำ โอ่ง หรือบ่อปูนซีเมนต์ โดยมักจะพบเห็นตามพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ไม่ว่าจะมีวิธีการกักเก็บน้ำอย่างไร ในน้ำก็มักจะมีแบคทีเรีย ไวรัส จุลินทรีย์ สารอินทรีย์ต่าง ๆ ที่มาจากมูลนก แมลง รวมถึง สารเคมี ฝุ่นควัน มลพิษที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ทำให้เกิดการสะสม และเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก แบคทีเรีย จุลินทรีย์ ไวรัส และสารพิษต่าง ๆ รวมไปถึงฝุ่นตะกอน และตะไคร่น้ำได้ หากต้องการนำน้ำไปใช้เพื่อการอุปโภคในชีวิตประจำวัน อย่างการอาบน้ำ ล้างจาน หรือใช้ในทางสุขอนามัย เราจำเป็นต้องทำการกรองก่อนเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่า น้ำมีความใส สะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่ถ้าหากต้องการนำน้ำนั้น ไปใช้เพื่อการเกษตร เช่น การรดน้ำต้นไม้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำการกรองก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ และปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น พื้นที่ที่เราอาศัยตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรม หรือเหมืองแร่หรือไม่ มีปัญหาฝุ่นควันในพื้นที่หรือไม่ เป็นต้น

เครื่องกรองน้ำสำหรับกรองน้ำฝน

แล้วยังสามารถดื่มน้ำฝนได้ไหม?

ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า ในอดีตน้ำฝนมีความสะอาด และปลอดภัย สามารถดื่มได้ แต่ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นว่า เมื่อการเข้ามาของยุคโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะอาศัยอยู่พื้นที่ใดของโลก ก็เกิดการปนเปื้อนของมลพิษได้ทั้งนั้น ทำให้มีงานวิจัยและหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อมได้ออกมาเตือนเรื่อง การดื่มน้ำฝน ว่าไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไป และอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้ จึงไม่แนะนำให้นำน้ำฝนมาดื่ม

แต่ถ้ามีความจำเป็นที่ต้องดื่มน้ำฝนจริง ๆ อาจจะเนื่องจากการอาศัยอยู่ในที่ห่างไกลชุมชน ทำให้การเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด เป็นไปได้ยาก การกรองน้ำก่อนนำมาดื่มจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ควรพิจารณาเครื่องกรองน้ำ ที่ออกแบบมาสำหรับการกรองน้ำดื่มโดยเฉพาะ เพราะต้องผ่านกรรมวิธีการกรองเอาสิ่งเจือปน และสารเคมีต่าง ๆ ออกจากน้ำเป็นพิเศษ ซึ่งต่างจากการกรองแบบทั่วไป ทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์ และปลอดภัยต่อบริโภคมากที่สุด จึงควรศึกษาข้อมูลของเครื่องเหล่านี้ให้ละเอียด เครื่องกรองน้ำตามท้องตลาดมีหลายประเภท หลายขนาด และมีราคาที่หลากหลาย ตามแต่ละยี่ห้อ หากไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบใดที่เหมาะสมกับเรา แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการรับประกันความสะอาด และปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล เพื่อสุขอนามัยของเราและคนในครอบครัว

การเปรียบเทียบแสดงผลจากการกรองน้ำฝน

สรุปคือ แม้ว่าน้ำฝนจะเป็นแหล่งน้ำที่มีตามธรรมชาติ แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการบำบัดน้ำอย่างเหมาะสม ก่อนนำมาใช้เสมอ เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นระบบการกรองน้ำจึงมีบทบาทสำคัญในการกำจัดสิ่งปนเปื้อน ลดการเจือปนของสารเคมี กำจัดจุลินทรีย์ และเพิ่มคุณภาพของน้ำ เราจึงควรมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบกรองน้ำ และเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภท หากไม่แน่ใจว่าเครื่องหรือระบบการกรองน้ำแบบไหนเหมาะกับเรา ควรขอคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ และเลือกเครื่องกรองที่ได้รับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ การบำรุงรักษาที่เหมาะสม และสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากการกรองน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

ถ้าหากท่าน มีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามเราได้ตลอดเวลาที่เราเปิดทำการ ตามช่องทางการให้บริการของเราได้ที่ ข้อมูลบริษัท หรือโทร 0-2888-1552, มือถือ 09-6594-9979 และ LINE ID : @sangpanya เรายินดีให้คำปรึกษาแก่ทุกท่านค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *