7 ข้อควรรู้ ก่อนซื้อตู้กดน้ำ

 

ตู้กดน้ำ ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ เรามักจะพบเห็นตามที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในครัวเรือน สำนักงาน สถานที่ราชการ อย่างเช่น โรงเรียน สวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งตามหอพัก ที่อยู่อาศัย และอาคารต่าง ๆ เพราะสามารถกรองน้ำให้สะอาด ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำ ทำให้น้ำเย็น หรือน้ำร้อนให้เราได้ในทันที ซึ่งสะดวกอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องรีบเร่ง และต้องการน้ำดื่มที่สะอาดในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อตู้ทำน้ำเย็น น้ำร้อน โดยให้พิจารณาขนาด การออกแบบ ควรเลือกให้เข้ากับการตกแต่งของคุณ ใช้งานง่าย ตลอดจนประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ว่าประหยัดพลังงานหรือไม่ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ตรงตามความต้องการของคุณ รายละเอียดดังนี้

1. เลือกประเภทให้เหมาะสม :

โดยจัดออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ แบบขวดคว่ำด้านบน, แบบขวดด้านล่าง และแบบตั้งโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ โดยตู้แบบขวดคว่ำด้านบน มักจะมีถังเก็บน้ำอยู่ด้านบน ต้องยกขวดน้ำขึ้น คว่ำขวดลงเพื่อเติมน้ำ ส่วนตู้แบบขวดด้านล่างมีถังเก็บน้ำอยู่ที่ด้านล่างของตัวตู้ และคุณสามารถดูระดับน้ำได้จากด้านหน้า และแบบสุดท้าย แบบตั้งโต๊ะ มักมีขนาดเล็กกว่าแบบอื่นและไม่ต้องการพื้นที่ตั้งพื้น มีความจุจำกัดและต้องมีการเติมบ่อย ๆ การพิจารณาว่าตู้ทำน้ำประเภทใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ควรพิจารณาจากพื้นที่ที่คุณมี ความถี่ในการเติมน้ำ และไลฟ์สไตล์ความชอบส่วนตัวของคุณด้วย

2. ดูปริมาณความจุของน้ำ:

โดยปริมาณความจุของน้ำมีให้เลือก ตั้งแต่ประมาณ 4 ถึง 20 ลิตร โดยพิจารณาปริมาณน้ำที่คุณและครอบครัวดื่มในแต่ละวัน และเลือกตู้ทำน้ำที่มีความจุเพียงพอต่อความต้องการของคุณ หากคุณมีครอบครัวขนาดใหญ่หรือสำนักงานที่มีพนักงานเยอะ ควรเลือกปริมาณน้ำที่มีความจุมากขึ้นตามความเหมาะสม

3. ความสามารถในการทำความเย็นและความร้อน:

ตู้กดน้ำบางตู้มีความสามารถในการให้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น ในขณะที่บางตู้ ก็ให้เฉพาะน้ำเย็นเท่านั้น หากคุณชอบชงหรือดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ เช่น ชา กาแฟ ตู้กดน้ำที่มีความสามารถในการทำความร้อนด้วยก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าหากคุณต้องการเพียงน้ำเย็น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะซื้อตู้ทำน้ำร้อน เพื่อประหยัดงบประมาณและคุ้มค่าในการใช้งานมากกว่า

4. ราคาและคุณสมบัติ:

ตู้กดน้ำมีราคาตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่น ให้พิจารณางบประมาณของคุณและคุณสมบัติที่คุณต้องการ เช่น ตู้กดน้ำร้อนที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ไฟกลางคืน หรือโหมดประหยัดพลังงาน ยิ่งตู้กดน้ำมีคุณสมบัติมากเท่าใด ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

5. แหล่งพลังงาน:

ตู้กดน้ำมีทั้งแบบใช้ไฟฟ้า และแบบแมนนวล โดยตู้กดน้ำที่ต้องการใช้ไฟฟ้าควรอยู่ใกล้กับเต้าเสียบ ควรพิจารณาว่าตู้ชนิดใดที่เหมาะสำหรับคุณ โดยพิจารณาจากความต้องการและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ว่าใช้หรือประหยัดพลังงานไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน และควรเลือกตู้กดน้ำที่มีมาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้ใช้งานทุกคน

6. การบริการลูกค้าหลังการขาย:

เลือกแบรนด์หรือร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมการบริการลูกค้าที่ดี มีระยะเวลาประกันสินค้าหรือไม่ ควรศึกษาหาข้อมูลของแบรนด์ หรือร้านค้านั้น ๆ และอ่านรีวิว หรือบทวิจารณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าร้านเหล่านั้น มีประวัติที่ดีในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและให้บริการลูกค้าที่ดี ในกรณีที่คุณมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นกับอุปกรณ์และตัวเครื่อง สิ่งสำคัญที่สุดคือร้านเหล่านั้นต้องมีทีมงานไว้บริการลูกค้า เข้าถึงบริการหลังการขายได้ง่าย และรวดเร็ว

7. การบำรุงรักษา:

ควรพิจารณาข้อกำหนดและระยะเวลาในการบำรุงรักษาตัวตู้และไส้กรอง เช่น การทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรอง ตู้กดน้ำบางรุ่นมีระบบกรองในตัวที่ช่วยขจัดสิ่งเจือปนออกจากน้ำ ในขณะที่บางเครื่องไม่มี หากคุณกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำประปา ให้เลือกตู้กดน้ำที่มีระบบการกรอง ความถี่ในการทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองจะแตกต่างกันไปตามประเภทของหัวจ่ายและแหล่งน้ำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทราบข้อกำหนดการบำรุงรักษาก่อนตัดสินใจซื้อ

โดยสรุปแล้ว ตู้กดน้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมี สำหรับครอบครัวและสำนักงาน ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ให้พิจารณาประเภทที่คุณต้องการ ปริมาณความจุของน้ำ ความสามารถในการทำความเย็นและความร้อน แหล่งพลังงาน ราคาและคุณสมบัติ แบรนด์หรือร้านค้า การบริการลูกค้า และข้อกำหนดในการบำรุงรักษาประกอบด้วย


หากท่าน มีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามเราได้ตลอดเวลาที่เราเปิดทำการ ตามช่องทางการให้บริการของเราได้ที่ ข้อมูลบริษัท หรือโทร 0-2888-1552, มือถือ 09-6594-9979 และ LINE ID : @sangpanya เรายินดีให้คำปรึกษาแก่ทุกท่านค่ะ